ตลาดเด้ง 22 จุด ทำให้ระยะสั้นกลับเป็นขาขึ้น ส่วนระยะยาวก็ยังเป็นขาลงเช่นเดิม // เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย มาอยู่แถว 34.9x THB/USD ปลาย ๆ หลังจากวิ่งทะลุ 35 ไประหว่างสัปดาห์ แต่แนวโน้มระยะกลางก็เป็นฝั่งอ่อนค่า // ดัชนีหุ้นไทยเด้งบวกแรง // ตลาดหุ้นทั่วโลกบวกลบบาง ๆ // น้ำมันร่วงแรง ทองคำบวกเล็กน้อย กราฟจาก บริการเอสเพน (คลิกที่รูป เพื่อชมขนาดใหญ่ขึ้น) สถานะของตลาดและของปัจจัย แนวโน้มตลาดระยะกลาง-ยาว (กราฟซ้ายบน): ยังอยู่ในขาลง ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 14 แนวโน้มตลาดระยะสั้น (กราฟซ้ายล่าง): หลังจากเด้งได้ 2 วันติดกัน ก็กลับเป็นขาขึ้นเรียบร้อย การซื้อขายสุทธิของนักลงทุน: ในตลาดหุ้น — ฝรั่งกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยต่อ ขณะที่รายย่อยขาย … ในตลาดฟิวเจอร์ส — ฝรั่งขาย ขณะที่สถาบันซื้อ เงินบาท: […]
ตลาดกลับเป็นขาลง ทั้งระยะสั้นและระยะกลาง // เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องไป 34.40 THB/USD และแนวโน้มระยะกลางก็เป็นฝั่งอ่อนค่า // ดัชนีหุ้นไทยลบเยอะ // ตลาดหุ้นทั่วโลกบวกลบบาง ๆ รอข่าวใหม่ // น้ำมันลบน้อย ทองคำลบหัวทิ่ม กราฟจาก บริการเอสเพน (คลิกที่รูป เพื่อชมขนาดใหญ่ขึ้น) สถานะของตลาดและของปัจจัย แนวโน้มตลาดระยะกลาง-ยาว (กราฟซ้ายบน): ยังอยู่ในขาลง ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13 แนวโน้มตลาดระยะสั้น (กราฟซ้ายล่าง): หลังจากแรงขาขึ้นอ่อนแรงลง วันนี้โดนตบลงไปเกือบ 13 จุด จุงกลายเป็นขาลงเรียบร้อย การซื้อขายสุทธิของนักลงทุน: ยังชิว ๆ ไม่ออกอาวุธชัดเจน ทั้งในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์ส เงินบาท: อ่อนค่าไปที่ 34.40 THB/USD และแนวโน้มระยะกลางก็ยังเป็นฝั่งอ่อนค่า ตลาดหุ้นต่างประเทศ: สหรัฐฯ และยุโรป บวกลบบาง ๆ รอกระแสข่าวใหม่ ๆ […]
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คือดอกเบี้ยแกนหลักของประเทศซึ่งมีหน้าที่ประครองเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปอย่างมั่นคง ไม่ตกต่ำจนประชาชนเดือนร้อน และไม่ร้อนแรงเกินไปจนสุ่มเสี่ยง อัตราดอกเบี้ยนโยบายนี้ จะว่าไปก็เปรียบเหมือนคันเร่งและแป้นเบรคของรถยนต์ ซึ่งเจ้ารถยนต์นี้ก็คือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเศรษฐกิจชักจะเหงาหงอย เติบโตต่ำ ซึ่งเปรียบเหมือนรถยนต์ที่วิ่งช้าลงจนแทบหยุด โดยหลัก ๆ ก็จะดูจากการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Production หรือ GDP) ที่ชะลอตัว ยอดการส่งออกสุทธิที่ลดลง และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำลง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็จะเหยียบคันเร่งด้วยการ “ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” เพื่อส่งสัญญาณให้กลไกหลักในตลาดการเงิน ซึ่งก็คือแบงก์พาณิชย์ ปรับลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจมีแรงฮึดจนกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง กล่าวคือ 1) ส่งสัญญาณให้แบงก์พาณิชย์ “ในฐานะเจ้าหนี้” ลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้ลูกหนี้ซึ่งมีทั้งประชาชนและภาคธุรกิจหายใจหายคอได้คล่องขึ้นด้วยเหตุที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลง … เมื่อดอกเบี้ยต่ำลง ลูกหนี้ที่เป็นประชาชนผู้บริโภค ก็มีแนวโน้มจะใช้จ่ายด้วยการก่อหนี้มากขึ้น เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล และเมื่อดอกเบี้ยต่ำลง ลูกหนี้ที่เป็นภาคธุรกิจ ก็มีแนวโน้มที่จะกู้ยืมเพื่อไปลงทุนทำธุรกิจมากขึ้น 2) ส่งสัญญาณให้แบงก์พาณิชย์ “ในฐานะลูกหนี้” ลดดอกเบี้ยเงินฝาก […]
วันนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์คณะหลักของประเทศในการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ประกาศหั่นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย — ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยแกนหลักของประเทศ ที่ใช้กำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยต่าง ๆ ทั้งหมด ทั้งพันธบัตร เงินกู้ และเงินฝาก — ให้ลดลง 0.25% จาก 2.00% ต่อปี เหลือ 1.75% ต่อปี ด้วยเหตุว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยแย่กว่าที่คาด แถมการใช้จ่ายภาครัฐยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะเห็นผล (ที่มา: www.bot.or.th) และผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว เท่าที่เห็นผลได้ทันทีและเท่าที่พอจะนึกออกในตอนนี้ก็คือ
(ภาพประกอบจาก: www.moneysupermarket.com) คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แล้วประเทศกลุ่มเงินสกุลไหนล่ะ ที่คนไทยไปแล้วคุ้มมากขึ้น หรือ น้อยลง เมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ?!? ในกราฟด้านบนของแต่ละสกุลเงิน จะแสดงมูลค่าของเงิน 1 บาทไทย เมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศนั้น ๆ ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา (พ.ย. 2555 – พ.ย. 2557) ถ้ากราฟพุ่งขึ้น แปลว่า เงินบาทเรามีค่าสูงขึ้น ถ้ากราฟตกลง แปลว่าเงินบาทเรามีค่าลดลง • ญี่ปุ่น (Japanese Yen) ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เงินบาท แข็งค่าขึ้น 35% เมื่อเทียบกับเงินเยน แปลว่า ด้วยเงินบาทจำนวนเท่ากัน เวลา 2 ปีผ่านไป คนไทยมีกำลังซื้อสินค้าในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 35%